วัด สุราษฎร์ธานี นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีศิลปะ วัฒนธรรม และศาสนา ทำให้เกิดวัดมากมาย อย่างที่คุณเคยได้ยินว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ ตั้งแต่สมัยโบราณ เราชาวไทยไปวัดทำบุญกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งวัดยังถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยอีกด้วย
ในยุคนี้ได้มีการสร้างวัดและบูรณะปฏิสังขรณ์อย่างสวยงาม บางแห่งใช้ศิลปะผสมผสานกับการตกแต่งก่อสร้าง ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมอันงดงามถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค ดังนั้น นอกจากวัดจะเป็นสถานที่ทำบุญไหว้พระแล้วยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามให้พวกเราทุกคนได้เดินทางไปเยี่ยมชมอีกด้วย ดี.
อุทยานธรรมเขานาในหลวง : อ.พนม วัด สุราษฎร์ธานี
วัด สุราษฎร์ธานี นี่คืออารามที่เงียบสงบ แวดล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม มีพระเจดีย์ลอยอยู่บนฟ้าของพระพุทธศิลาวดี สร้างด้วยศิลาแลงจากเมืองกำแพงเพชร ตั้งอยู่บนภูเขาหินปูนสูงจากพื้นดินประมาณ ๓๐๐ เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เสมือนเป็นศูนย์รวมแห่งความเชื่อและความศรัทธาของชาวพุทธ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นเขามากราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลกันเป็นจำนวนมาก
อุทยานธรรมเขานาในหลวง นอกจากจะเป็นศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไปแล้ว ศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมในอุทยานธรรมเขานาหลวง ยังมีซุ้มประตู 9 ยอดแบบโบราณที่มีชื่อเรียกว่า “พุทธวดี” โดยเฉพาะเมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบซุ้มประตูในตอนเช้า เป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจมาก ในตอนเช้าสามารถเดินขึ้นเขาไปชมความงามของทะเลหมอกทางภาคใต้ได้สวยงามไม่แพ้ทางภาคเหนือ แถมยังได้รูปสวย ๆ กลับไปเป็นที่ระลึกอีกด้วย
วัดพระใหญ่ : อ.เกาะสมุย
วัดพระใหญ่ อ.เกาะสมุย ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ชื่อ “เกาะฟาน” แต่มีเขื่อนหินเชื่อมถึงกัน สามารถข้ามไปยังเกาะสมุยได้ ภายในวัด “พระพุทธโคดม” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีเหลืองทองขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าตักกว้าง 5 วา 9 นิ้ว สูง 6 วา นับเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ สามารถมองเห็นได้โดดเด่นเป็นสง่า เมื่อมองจากที่ไกล ๆ ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเกาะสมุยอีกด้วย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และเก็บภาพความงดงามขององค์พระสีเหลืองทองไว้เป็นที่ระลึก.
ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งบนเกาะสมุยเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญด้านบนยังสามารถมองเห็นวิวทะเลได้แบบพาโนรามา และเกาะสมุยได้กว้างมาก และ บริเวณทางเข้าวัดยังมีร้านค้า ร้านค้าสวัสดิการจำหน่ายของที่ระลึกมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกด้วย
วัดแหลมสุวรรณาราม : อ.เกาะสมุย
วัดแหลมสุวรรณาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘วัดปลายแหลม’ เป็นวัดเก่าแก่ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2423 วัดตั้งอยู่ในบ้านปลายแหลม ทางทิศเหนือของเกาะสมุย ระหว่างวัดพระใหญ่และหาดเชิงมน ภายในวัดมีพระอุโบสถอยู่กลางสระน้ำ ตั้งอยู่บนฐานดอกบัวทรงกระทง ซึ่งมีสะพานเดินข้ามไปยังอุโบสถได้
นอกจากนี้ ด้านซ้ายและขวาของอุโบสถกลางน้ำ มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสูง 20 เมตร แต่ละแขนแสดงถึงพุทธลักษณะต่างๆ และพระพุทธรูปสังกัจจายน์ ซึ่งคนส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ “พระอ้วน” หรือ “พระสังกัจจายน์” โดยพระสังกัจจายน์หมายถึงความสุขและความรัก ก็เชื่อกันว่าสามารถขอบุตรได้เช่นกัน
วัดราชธรรมาราม : อ.เกาะสมุย
วัดราชธรรมาราม หรือวัดพระธาตุศิลางู เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ริมทะเล อยู่คู่กับเกาะสมุยมาช้านาน เหตุที่เรียกว่า ‘พระธาตุศิลางู’ มาจากที่วัดนี้มีเจดีย์สีทองอร่าม ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ และบนหาด มีโขดหินที่มีลักษณะคล้ายเกล็ดงู เวลาน้ำลงจะดูเหมือนงูอยู่ในทะเล จึงเรียกตามที่เห็นสืบต่อกันมา
เกาะสมุยยังมีอุโบสถสีแดงที่ใช้ปูนขาวเค็มบดละเอียดผสมปูน แล้วผสมกับสีแดงทำให้เป็นสีที่แปลกตา สะดุดตา และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากราบไหว้สักการะเป็นจำนวนมาก
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร : อ.ไชยา
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นวัดที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่ยังคงรักษาศิลปะสมัยศรีวิชัยไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในตำบลเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี สถานที่แห่งนี้ถือเป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 3 แห่ง อันเป็นที่เคารพสักการะของภาคใต้อีกด้วย
นี่เป็นวัดที่เก่าแก่มาก เพราะมีหลักฐานว่าน่าจะเกี่ยวโยงกับอาณาจักรสุวรรณภูมิกับอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งได้รับเอาพุทธศาสนานิกายมหายานสันนิษฐานได้จากโบราณสถาน โบราณวัตถุที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ปรากฏอยู่หลายยุคหลายสมัย
วัดถ้ำหอมธรรมาราม : อ.ชัยบุรี
วัดถ้ำหอมธรรมาราม มีบรรยากาศที่ร่มรื่น เป็นวัดเล็กๆในแขวงชัยบุรีล้อมรอบด้วยธรรมชาติ มีพญานาคสีขาวองค์ใหญ่อยู่บนยอดเขา บันไดทางขึ้นเป็นรูปพญานาค มีราวจับตลอดทาง บันไดมีประมาณ 300 ขั้น บางช่วงค่อนข้างชัน แต่ก็ไม่อันตรายมาก สามารถชวนครอบครัว ผู้สูงอายุ ไปเที่ยวได้ค่ะ ทางขึ้นจะมีชั้นพัก ถ้าเหนื่อยก็พักแล้วเดินต่อ เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะพบพระสีวลีหรือพระฉิมพลีองค์ใหญ่สีขาวเชื่อกันว่ามีบารมีทางโชคลาภ และจากบริเวณนี้เราสามารถชมวิวได้ 360 องศา ซึ่งจะเห็นธรรมชาติโดยรอบด้านล่างที่สวยงาม
นอกจากนี้ยังมีถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย ภายในมีพระพุทธรูปหยกขาว และยังมีบ่อน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เรียกว่า บ่อน้ำทิพย์ ภายในสระมีน้ำนิ่งตลอดปีและเป็นแหล่งอาศัยของค้างคาวนานาชนิด และที่ชื่อถ้ำหอมก็เพราะมีคนมากราบไหว้เจ้าแม่ผม เชื่อกันว่าท่านประทับอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และตั้งชื่อที่แห่งนี้ว่า “ถ้ำหอม”
วัดดอนสัก (สิงขร) : อ.ดอนสัก
วัดดอนสัก (สิงขร) วัดชื่อดังในภาคใต้ถือเป็นวัดแห่งแรกในอำเภอดอนสักที่มีอายุกว่า 500 ปี สร้างวัดประมาณ พ.ศ. 2050 ภายในวัดมีร้านค้า ร้านค้าสวัสดิการมากมายรอต้อนรับนักท่องเที่ยวและจุดถ่ายรูปมากมาย ความพิเศษของวัดนี้คือหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ปางสมาธิ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก มีฐานหน้าตักกว้าง 40 เมตร สูง 39 เมตร สูงไม่รวมฐานจากพื้นดิน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอดอนสัก
การสร้างหลวงปู่ทวดในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าอำเภอดอนสักเป็นทางผ่านเพื่อเดินทางลงไปท่องเที่ยวที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จึงได้สร้างขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แวะสักการะ สักการะและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวก่อนออกเดินทางต่อหรือขึ้นมาจากเกาะ
วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ : อ.ดอนสัก
วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ เดิมเรียกว่าวัดเขาล้านเพราะตั้งอยู่บนเนินเขาเปล่า ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่สถิตของพ่อท่านขาว ซึ่งเป็นเทวดาผู้ปกปักรักษาเขาล้านและผืนดินโดยรอบ ชั้นบนสุดของ พระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณโดยรอบวัดมีความสงบร่มรื่นมองเห็นทะเล อีกทั้งได้ชมพื้นที่ต่าง ๆ ของอำเภอดอนสัก เกาะต่าง ๆ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอดอนสัก และเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตลอดมาตามประเพณีของชาวดอนสักอีกด้วย
วัดวิชิตดิตถาราม : อ.ท่าชนะ
วัดวิชิตดิตถาราม หรือ วัดโคกช้าง เป็นวัดเก่าแก่ของอำเภอท่าชนะ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธประสงค์วุฒิพงษ์ประสิทธิ์ประนาถบพิตร ท่าชนะมงคล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปนาคปรกขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร สูง 6 เมตร ประดิษฐานอยู่บนหน้าผาสูงประมาณ 250 เมตร มีบันไดขึ้นทั้งหมด 270 ขั้น รายล้อมด้วยธรรมชาติ ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพ สวยที่สุดของอำเภอท่าชนะเลยก็ว่าได้
รอบโบสถ์มีรูปปั้นช้างริมน้ำ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาเยี่ยมชม ซึ่งวัดวิชิตดิตถารามตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและต้นไม้นานาพันธุ์ เมื่อมาถึงแล้วจะรู้สึกสดชื่น ร่มรื่นมาก
จากนั้นเดินทางต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะพบกับ ‘ตำหนักแม่นางซอง’ ซึ่งแกะสลักจากหินเป็นรูปแม่นางซอง และโขดหินตั้งอยู่ด้านหลังพระตำหนัก ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของธรรมชาติอีกด้วย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และศูนย์รวมจิตใจของชาวท่าชนะอีกแห่งหนึ่ง
โบสถ์กลางน้ำวัดทุ่งเซียด : อ.พุนพิน
วัด สุราษฎร์ธานี เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ในอดีตวัดทุ่งที่นั่งมีอุโบสถไม้กลางน้ำที่สร้างในสมัยศรีวิชัยเมื่อ 500 ปีที่แล้ว แต่ผุพังไปตามกาลเวลา แต่สิ่งที่เหลืออยู่คือเสาไม้ต้นเดียวของโบสถ์โบราณที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ จึงได้อัญเชิญขึ้นมาบนบกและสร้างโบสถ์กลางน้ำขึ้นแทนโบสถ์หลังเดิมที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสร้างบนฐานรูปเรือคล้ายโบสถ์สวยงามและจำลองพระบรมสารีริกธาตุตั้งตระหง่านอยู่กลางสระน้ำ ที่มีความกว้างกว่า 13 ไร่ หัวเรือหันไปทางทิศตะวันออก
โบสถ์กลางน้ำวัดทุ่งเซียด พื้นที่โดยรอบรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม จึงทำให้บรรยากาศภายในวัดและโบสถ์ต่างๆ เย็นสบาย สดชื่น หากใครมีโอกาสไปเที่ยวที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน อย่าลืมแวะชมความงามของโบสถ์กลางน้ำ ไปเที่ยววัดทุ่งเสียดกัน